ยินดีต้อนรับ - Welcome

ยินดีต้อนรับ - Welcome - Bienvenu - Bienvenido - Benvenuto - ευπρόσδεκτος - желанный - רצוי - 受歡迎 - 환영받는 - مرحب بهइच्छित

ตัวฉัน ... My self

ปฏิทินของฉัน ... My Calendar

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศอียิปต์



อียิปต์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นอกจากจะชมโบราณสถานตามริมแม่น้ำไนล์ ตลาดเก่าในกรุงไคโรแล้ว ยังเดินทางไปเที่ยวชมภูเขาในคาบสมุทรซีไนและชายหาดริมทะเลแดงด้วย สำหรับไคโรก็เยี่ยมชมปิรามิดและสฟิงคส์ที่กีซา (Giza) และปิรามิดขั้นบันไดที่ ซักการา (Saqqara) และยังชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อศึกษาอิยิปต์โบราณ

การล่องเรือชมโบราณสถานริมฝั่งแม่น้ำไนล์จำนวนมากที่เก่าแก่ 2,000-4,000 ปี ย่อมเป็นสถานที่ที่ผู้คนชอบมากที่สุด เมืองลุกซอร์ (Luxor) ซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศห่างจากกรุงไคโร 1 ชั่วโมง ด้วยเครื่องบิน เป็นเมืองที่มีวิหารและหุบผากษัตริย์ที่จารึกประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ เมืองอัสวาน (Aswan) เป็นเมืองที่แม่น้ำไนล์สวยงามที่สุด จากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถบินต่อไปยังอาบูซิมเบล (Abu Simbel) ที่อยู่ทางใต้สุดของอียิปต์เพื่อชมวิหารที่มีรูปปั้นขนาดมหึมาที่สง่าและอร่ามตาปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถไปชมแหล่งน้ำ (Oasis) ที่อยู่กระจัดกระจายในทะเลทรายหลายแห่งด้วย

 สภาพภูมิอากาศ
กลางวันและกลางคืนในอียิปต์มีอุณหภูมิแตกต่างกันมาก อียิปต์มีภูมิอากาศแบบ ร้อน แห้ง และอากาศหนาวระดับปานกลาง แบ่งเป็น 4 ฤดู ดังนี้ คือ
  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิ 15-32 °C
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน -สิงหาคม) อุณหภูมิ 21-43 °C
  • ฤดูใบไม่ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 19-34 °C
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิ 8-20 °C เป็นเดือนที่อาจมีฝนตก แต่ปริมาณน้ำฝนใม่มากนัก เฉลี่ย 42 มม.
 เวลา
เดือนตุลาคม – เมษายน เวลาในประเทศอียิปต์ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง (+3 เวลากรีนิช)
เดือนพฤษภาคม-กันยายน เวลาในประเทศอียิปต์ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง (+2 เวลากรีนิช)
 ภาษา
ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ และภาษาต่างประเทศที่ใช้ทั่วไปได้แก่ ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส
 เงินตรา
สกุลเงินอียิปต์เรียกว่าปอนด์อียิปต์ หรือ Egyptian Pound (LE) รหัสสากล คือ EGP มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5.66 ปอนด์อียิปต์ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 6 บาท ต่อ 1 ปอนด์อียิปต์

เหรียญที่ใช้ได้แก่ เหรียญ 5, 10, 20, 25, 50 ปิอาสเตอร์ และ 1 ปอนด์
ธนบัตรที่ใช้ได้แก่ ธนบัตร 5, 10, 25, 50 ปิอาสเตอร์, 1, 5, 10, 20, 50, 100 และ 200 ปอนด์ และสามารถแลกเงินเป็นของไทยได้ 5 บาทต่อ 10 ปิอาสเตอร์


 ระบบไฟฟ้า
อียิปต์ใช้กระแสไฟฟ้าแบบ 220 V ความถี่ 50 Hz ปลั๊กเป็นแบบหัวกลม 2 ขา หากนักท่องเที่ยวต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยไปใช้ที่นั่น กรุณานำตัวแปลงปลั๊ก ที่ใช้ได้กับปลั๊กไฟทั่วโลกติดตัวไปด้วย



ตัวอย่างปลั๊กไฟในประเทศอียิปต์

 ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
 การใช้โทรศัพท์
รหัสประเทศของอียิปต์คือ "20" อัตราค่าโทรศัพท์จากอียิปต์มาไทย ประมาณนาทีละ 40-50 บาท

วิธีการใช้โทรศัพท์จากประเทศไทย
- ติดต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ : กด 001 + (20) ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
- ติดต่อโทรศัพท์ธรรมดา : ในกรุงไคโร กด 001 + (20) 2 แล้วตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์
- ในต่างจังหวัด กดหมายเลข 001 + (20) แล้วตามด้วยรหัสเมือง (อาทิ 97 สำหรับจังหวัดอัสวานและเมืองอาบู ซิมเบล 95 สำหรับจังหวัดลักซอร์ และ 3 สำหรับจังหวัดอเล็กซานเดรีย เป็นต้น) แล้วตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์

อียิปต์มี Internet café อยู่ทั่วไปและราคาไม่แพง จึงจะสะดวกในการติดต่อทางอีเมล์ สำหรับการใช้อินเตอร์เนตมีทั้งแบบที่เปิดให้ใช้ฟรี แต่เสียค่าชั่วโมงเอง (ซึ่งค่อนข้างแพง) และอินเตอร์เน็ตความ เร็วสูงที่เสียค่าบริการเป็นรายเดือนไว้ให้บริการ ในอียิปต์มี ISP (Internet Service Provider) หลายรายซึ่งมีค่าบริการแตกต่างกันไป
 การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
 อาหารการกิน
อาหารหลักของคนอียิปต์
การกินอาหารของคนในตะวันออกกลางจะมีความแตกต่างมากกับคนในเอเชียเราและอาหารหลักของทุกชนชั้นของคนอียิปต์ นั้น คือ ขนมปัง หัวหอม พวกผักต่างๆ แล้วก็ปลาแห้ง นอกจากนี้ คนอียิปต์จะมีน้ำเชื่อมซึ่ง ทำจากผลไม้ อาทิเช่นพวก องุ่น เพื่อให้ได้รสหวานและจะกินกับขนปังซึ่งจะใช้ขนมปังจิ้มกับน้ำเชื่อม และนอกจากนั้น ยังมีการใช้ในน้ำผึ้ง เกลือ กระเทียม หัวหอม ในการปรุงรสให้อร่อยด้วย และนอกจากขนมปังแล้วเขาจะกินโยเกิตย์พร้อมๆกับเมนูอาหารหลักอีกด้วยส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์นี้ก็มี สัตว์ที่นิยมรับประทานก็คือพวก เนื้อแกะ แพะ และเนื้อวัว

อาหารประเภทกาบับ ( Kabab ) ก็เป็นเนื้อ หรือ แพะ ย่างโดยมีเหล็กแหลม เสียบชิ้นเนื้อโดยหมุนชิ้นเนื้อให้ไฟเลียไปทั่วๆ กินกับผักทั้งผักสดเช่น แตงกวา มะเขือเทศ ต้นหอม กับผักดองเช่น แตงกวา มะเขือเปาะ หัวหอม แครอท
 รายการช้อปปิ้ง
น้ำหอม คริสตัล กระเป๋าสตางค์ทำจากหนังอูฐ พรมทอมืออียิปต์ ของที่ระลึกอื่นๆ เช่น Cartouche (คาร์ทูช), ชิชา Water Pipe, ตุ้กตาอูฐ,ที่คั่นหนังสือที่ทำจากกระดาษปาปิรุส, แบบจำลองโรงศพทองคำของตุตันคามุน เป็นต้น
 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า
  • พีระมิดโซเซอร์
  • พีระมิดหักงอ
  • พีระมิดแดง
  • วิหารลักซอร์
  • คลองสุเอซ
  • ไคโร
  • เมืองเมมฟิส
  • เมืองอเล็กซานเดรีย
  • ฯลฯ
 เทศกาลสำคัญ
  • วันชาติ วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นวันชาติ (Revolution Day) ของอียิปต์
  • วันประกาศเอกราชจากอังกฤษ วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นวัน ประกาศเอกราชจากอังกฤษ (เมื่อปี 2465)
  • รอมฎอน ช่วง Ramadan (ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม) เป็นช่วงถือศีลอด หน่วยงานของอียิปต์ไม่สะดวกในการต้อนรับคณะมากนักหากนักท่องเที่ยวเดินทางมา อียิปต์ในช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสสภาพชีวิตของช่วงการถือศีลอดของชาวอียิปต์
  • เทศกาลอีดิลฟิตตรี้ อีดิลฟิตรี (Eid-ul-Fitr) ถือเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของชาวมุสลิม หลังสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมะฎอนเป็นเวลานานถึงหนึ่งเดือน ชาวมุสลิมจึงมีการเลี้ยงฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ภายในครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนฝูง บ้างก็พาครอบครัวออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน มาเที่ยวและจับจ่ายซื้อข้าวของกันอย่างสนุกสนานในวันนี้

ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น


ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะต่าง ๆ กว่า 6,800 เกาะ เรียงรายเป็นแนวยาวจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของมหาสมุทรแปซิฟิก และตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของโลก จึงเป็นที่มาของชื่อ "ดินแดนอาทิตย์อุทัย" ญี่ปุ่นมีขนาดเล็กกว่าไทยประมาณ 0.7 เท่า แต่มีประชากรมากกว่าประมาณ 2 เท่า


ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะหลัก 4 เกาะคือ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชิว 


เกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ยังแบ่งเป็น 5 ภาค เรียงจากเหนือลงมาคือ โทโฮะกุ คันโต จูบุ คิงคิ และจูโงกุ มีจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมด 47 จังหวัด ( Prefecture ) แบ่งเป็นเมืองต่าง ๆ รวมทั้งหมดมากกว่า 650 เมือง โดยมีโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2411

 สภาพภูมิอากาศ
มี 4 ฤดูหลัก ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ
  • ฤดูใบไม้ผลิ : (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศอบอุ่น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 13-25 องศาเซลเซียส
  • ฤดูร้อน : (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศร้อนชื้นโดยมีช่วงฤดูฝนสั้น ๆ ประมาณ 1 เดือน ในช่วงต้นฤดู อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส
  • ฤดูใบไม้ร่วง : (กันยายน-พฤศจิกายน) อากาศอบอุ่น โดยมีพายุไต้ฝุ่นมากในช่วงเดือนกันยายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 22-27 องศาเซลเซียส
  • ฤดูหนาว : (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศหนาว มีหิมะตกมากทางภาคเหนือของประเทศและฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อากาศจะอบอุ่นกว่า อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 05-07 องศาเซลเซียส
 เวลา
ประเทศญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
 ภาษา
ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษตามสถานที่สำคัญ เช่น โรงแรม, สนามบิน, สถานที่ท่องเที่ยว หรือ ตาม เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลท่องเที่ยวสามารถพูดภาษาอังกฤษได้
 เงินตรา
สกุลเงินญี่ปุ่น คือ เงินเยน ในท้องตลาดใช้ได้แต่เงินเยนเท่านั้น ดอลล่าร์สหรัฐแลกได้ตามธนาคาร และโรงแรม อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน = ประมาณ 36-38 บาท (ข้อมูลจาก ธนาคารกรุงเทพ ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2553)
ธนบัตร ประกอบด้วย ธนบัตรใบละ 1,000 2,000 , 5,0000 , 10,000 เยน
เงินเหรียญ ประกอบด้วย 1 , 5 , 10 , 50 , 100 , 500 เยน
 ระบบไฟฟ้า
ญี่ปุ่น ใช้กระแสไฟฟ้า แบบ 110 V. (ไม่เหมือนประเทศไทย) ปลั๊กเสียบเป็นแบบ ขาแบน 2 ขา ฉะนั้นท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวิดิโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลก (Universal Adaptor) ติดตัวไปด้วย เพื่อความสะดวกของท่านกรุณาเตรียม ฟิล์มถ่ายรูป, แบตเตอร์รี่ ไปให้เพียงพอจากประเทศไทย


ตัวอย่างปลั๊กไฟในญี่ปุ่น

 ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
 การใช้โทรศัพท์
บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ท่องเที่ยว ราคาเริ่ม 1,000 เยน
วิธีโทรกลับประเทศไทย
กรุงเทพฯ : กด 001-010-662 ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก
ต่างจังหวัด : กด 001-010-66 ตามด้วยรหัสเมืองโดยตัดศูนย์ออก-หมายเลขโทรศัพท์หกหลัก
โทรภายในญี่ปุ่น : กด รหัสเมือง / มือถือ ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์

สิ่งที่ควรทราบ : เหตุฉุกเฉินติดต่อหมายเลข ตำรวจหมายเลข 110 / ดับเพลิง, รถพยาบาล 119 หน่วยงานตำรวจให้ข่าวสารภาษาอังกฤษทั่วไป 3501-0110 / แจ้งของหาย-รับของหายคืน 03-3814-4151 ในกรณีฉุกเฉิน ท่านใช้โทรศัพท์โดยไม่ต้องหยอดเหรียญ 10 เยน ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ เพียงแต่กดปุ่มสีแดงที่เครื่องโทรศัพท์ก่อนหมุนเรียก, หากท่านต้องการแพทย์หรือปฐมพยาบาล โปรดติดต่อโรงแรมที่เคาน์เตอร์รับแขกด้านหน้า
 การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
 อาหารการกิน
อาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสดอร่อย และความสวยงามในการตกแต่ง รวมทั้งความหลากหลาย อาหารที่เป็นที่นิยมของที่นี่ ได้แก่ โอโคโนมิยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชิมเมื่อมาเยือนฮิโรชิมา รวมทั้งร้านราเมนต่างๆ ที่เปิดจนดึกดื่น และหอยนางรมที่ขึ้นชื่อมานานนับศตวรรษ โดยสามารถหารับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูหนาว
 รายการช้อปปิ้ง
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์, กล้องถ่ายรูป, แว่นตา, นาฬิกา, เครื่องสำอาง, ชาเขียว, ชุดยูคาตะ เป็นต้น
 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • พระราชวังอิมพีเรียล
  • อาซากุสะ (Asakusa)
  • ชินจูกุ (Shin-juku)
  • กินซ่า (Ginza)
  • ชิบุยะ (Shibuya)
  • ฮาราจูกุ (Harajuku)
  • Rainbow Bridge
  • Tokyo Disneyland
  • ภูเขาไฟฟูจิ
 เทศกาลสำคัญ
  • เทศกาลปีใหม่ : เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะรับประทานโมจิ หรือซุปโมจิ และจะไปไหว้พระขอพรที่วัด หลังจากนั้นก็จะนำต้นไม้ชื่อมัทซึ มาวางไว้ที่หน้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว และประดับด้วยไม้ไผ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงความซื่อตรง ซื่อสัตย์ เหมือนลำไผ่ และความอ่อนน้อมแต่แข็งแรงเหมือนต้นไผ่ซึ่งทนทานต่อสภาพอากาศ
  • เทศกาลเซ็ตสึบุน : ชาวญี่ปุ่นจะนำถั่วแดงโปรยในบ้านและบริเวณนอกบ้านเพื่อไล่สิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน หลังจากนั้นก็จะรับประทานเมล็ดถั่วแดงจำนวนเท่ากับอายุของตนเอง เพราะเชื่อว่ารับประทานแล้วจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
  • เทศกาลวันเด็กผู้หญิง หรือ "ฮินะมัทสึริ" : บ้านที่มีบุตรสาวจะนำตุ๊กตามาตั้งไว้ในบ้านเพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสุข
  • เทศกาลวันเด็กผู้ชาย : คือวันที่ 5 พฤษภาคม เทศกาลนี้จัดขี้นสำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น บ้านไหนที่มีลูกชายจะประดับว่าวปลาคาร์ฟยาว 1-2 เมตรให้ปลิวไสวตามจำนวนบุตรชาย ในบ้านมีการจัดพิธีบูชาตุ๊กตานักรบ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อเกราะ หมวกเกราะหรือที่เรียกว่า “โกะงัสสึ นิงเงียว”เพื่ออธิษฐานขอให้บุตรชายที่รักมีสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยังมีการใช้ดอกโชบุและดอกคะชิวะและโมะติ ประดับไว้กับตุ๊กตานักรบที่ชื่อว่า Kabuto และมีการดื่มสาเกฉลองเช่นเดียวกับเทศกาลวันเด็กผู้หญิง
  • เทศกาลโอะฮานามิ (Ohanami) : เป็นเทศกาลชมดอกซากุระ จัดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน-กลางเดือนเมษายน เป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ชาวญี่ปุ่นจะพากันออกมาชมความงามของดอกซากุระ ซึ่งพร้อมใจกันบานสะพรั่งรับฤดูใบไม้ผลิเป็นสีชมพูตลอดทาง
  • เทศกาลหิมะ Snow Festival : จัดที่ Sapporo ทุกเดือนกุมภาพันธ์ อากาศที่หนาวเย็น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่เมืองซับโปโร บนเกาะฮอกไกโด เพื่อร่วมสนุกสนานกับเทศกาลหิมะ

ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศอเมริกา





อเมริกา (America) หรือ สหรัฐอเมริกา (United States of America) เป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยรัฐ 50 รัฐ ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนต่อกับประเทศแคนาดาและเม็กซิโก ส่วนพรมแดนทางทะเลนั้นติดต่อกับประเทศแคนาดา รัสเซียและบาฮามาส โดยมีมหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลแบริง มหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก และทะเลแคริบเบียนเป็นผืนน้ำล้อมรอบ 

สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของโลก และเป็นอภิมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวของโลกในยุคปัจจุบันทั้งในด้านการทหารและ เศรษฐกิจซึ่งรวมไปถึงในด้าน วิทยาศาสตร์ การศึกษา การกีฬา และบันเทิง 

สหรัฐอเมริกา นอกจากจะรู้จักในชื่อเต็มแล้ว ชาวอเมริกันเองรวมถึงผู้ที่มาจากประเทศอื่น ๆ ยังเรียกสหรัฐอเมริกาในหลายรูปแบบ ได้แก่ สหรัฐฯ (United States) , ยูเอส (U.S.) , ยูเอสเอ (USA) , เดอะสเตตส์ (the States) และอเมริกา (America) สำหรับคนไทยแล้ว นิยมเรียกสหรัฐอเมริกาสั้น ๆ ว่าสหรัฐฯ, อเมริกา จนไปถึงรูปแบบที่สั้นมาก ๆ คือ "มะกัน" และเรียกสหรัฐอเมริกาในเชิงฉายาว่าเป็น "ลุงแซม" รวมถึงเรียกสหรัฐอเมริกาที่เป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจทางการเงิน และการทหารยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันในทางเสียดสีว่าเป็น "เจ้าโลก" หรือ "จ้าวโลก" อีกด้วย



 สภาพภูมิอากาศ
สหรัฐอเมริกามี 4 ฤดูกาล คือ
  • ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อากาศร้อนคล้ายเมืองไทย แต่ถ้ามีลมพัด ลมจะเย็นสบายกว่า
  • ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน – พฤศจิกายน อากาศจะเริ่มเย็น เพราะจะเข้าฤดูหนาว ฤดูนี้เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด
  • ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศหนาวมาก อุณหภูมิตั้งแต่ – 30 ํC ถึง10 ํC
  • ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อากาศอบอุ่น
เมืองทางแถบตะวันออก ของประเทศอากาศในช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อนจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนทางด้านชายฝั่งตะวันตกค่อนข้างจะมีฝนตกบ่อย มีหิมะตกพอสมควร ปริมาณแสงแดดก็มีไม่มากนัก ทางตอนกลางของประเทศมีหิมะตกพอสมควรถึงหนักมาก แสงแดดค่อนข้างมาก

หมายเหตุ : ในฤดูใบไม้ร่างจะมีการหมุนเข็มนาฬิกา ให้เวลาเดินหน้าเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และในฤดูใบไม้ผลิ จะหมุนเข็มนาฬิกาให้เวลาถอยหลัง 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์แรก ของเดือนเมษายน
 การขอวีซ่า
 เวลา
ด้วยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างมาก จึงมีการแบ่งความแตกต่างของเวลาตามเส้นแบ่งของโลก เป็น 4 เขตเวลา (Time Zone) คือ
  • Eastern Time Zone (EST) จะมีเวลาช้ากว่าในประเทศไทยเท่ากับ 12 ชั่วโมง
  • Central Time Zone (CST) จะมีเวลาช้ากว่าในประเทศไทยเท่ากับ 13 ชั่วโมง
  • Mountain Time Zone (MST) จะมีเวลาช้ากว่าในประเทศไทยเท่ากับ 14 ชั่วโมง
  • Pacific Time zone (PST) จะมีเวลาช้ากว่าในประเทศไทยเท่ากับ 15 ชั่วโมง
ในแต่ละ Time Zone จะมีเวลาแตกต่างกัน 1 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น เวลาใน Eastern โซน เป็นเวลาบ่าย 4 โมงเย็น เวลาในเขต Central โซนจะเป็นบ่าย 3 โมงเย็น ในเขต Mountain โซนเป็นเวลาบ่าย 2 โมง และเวลาในเขต Pacific โซนจะเป็นเวลาบ่าย โมงตรง เวลาต่างจากไทย : ฝั่งตะวันออก 12 ชั่วโมง ฝั่งตะวันตก 15 ชั่วโมง
 ภาษา
ภาษาที่ใช้เป็นภาษาทางราชการคือ ภาษาอังกฤษ
 เงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐ (United States Dollar) เป็นสกุลเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังใช้เป็นสกุลเงินสำรองในหลายประเทศทั่วโลก รหัสสากลคือ ISO 4217 ใช้ตัวย่อว่า USD และสัญลักษณ์ $ โดย 1 ดอลลาร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ 100 เซนต์ (cents)

ชื่อเล่นที่ชาวสหรัฐเรียก 1 เซนต์ ว่า "เพนนี" (penny), 5 เซนต์ ว่า "นิกเกิล" (nickel), 10 เซนต์ ว่า "ไดม์" (dime), 25 เซนต์ ว่า "ควอเตอร์" (quarter), 1 ดอลลาร์สหรัฐ ($1) ว่า "บั๊ก" (buck) และเรียก หนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ ($1000) ว่า แกรนด์ (grand)

อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 กันยายน 2553 อยู่ที่ประมาณ 31 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ


 ระบบไฟฟ้า
สหรัฐอเมริกามีระบบไฟฟ้าแบบ 115 Volts, 60 Cycles ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทย หากนักท่องเที่ยวต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเมืองไทยไปก็จำเป็นต้องหาซื้อ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Adapter) ไปด้วย


ตัวอย่างปลั๊กไฟในสหรัฐอเมริกา
 ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
 การใช้โทรศัพท์
ในสหรัฐอเมริกามีบริการโทรศัพท์สาธารณะอยู่ทั่วไปทั้งแบบหยอดเหรียญ ใช้บัตรโทรศัพท์ รวมถึงบัตรเครดิต ซึ่งถือได้ว่ามีความสะดวกสบายอย่างมาก นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถขอติดตั้งโทรศัพท์ภายในที่พักของตนเองได้อีกด้วย ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเนื่องจากเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจัดให้แก่ประชาชน โดยมีองค์กรซึ่งให้บริการอยู่ 2 ประเภท คือ องค์การโทรศัพท์ท้องถิ่น และองค์การโทรศัพท์ทางไกล
  • การโทรศัพท์จากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาก็สามารถทำได้โดยกด 001 + 1 (รหัสประเทศสหรัฐอเมริกา) + area code + หมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง
  • การโทรศัพท์จากสหรัฐอเมริกากลับมาประเทศไทยทำได้โดยกด 011 + 66 (รหัสประเทศไทย) + 2 (รหัสกรุงเทพ) +หมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง
สำหรับ ค่าบริการทางบริษัทที่นักศึกษาเลือกใช้บริการจะส่งใบแจ้งหนี้ให้แก่นักศึกษา เป็นรายเดือน ซึ่งในใบแจ้งหนี้จะแจ้งให้ทราบถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น ค่าบริการขั้นพื้นฐาน ค่าโทรศัพท์ภายในท้องถิ่น ค่าโทรศัพท์ทางไกล ซึ่งนักศึกษาสามารถชำระค่าบริการได้ที่ทำการโทรศัพท์ หรือสั่งจ่ายเป็นเช็คแล้วส่งไปทางไปรษณีย์

นอกจากนี้ยังมีบริการโทรศัพท์ทางไกลผ่านทางอินเตอร์เน็ทซึ่งมีอัตราค่า บริการค่อนข้างถูก และเป็นที่นิยมอย่างมากอีกด้วย โดยอัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับประเทศที่เราต้องการจะโทรไป แต่มีข้อเสีย คือ ผู้ที่ต้องการใช้บริการในรูปแบบนี้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ ครบ ซึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ทได้ และHead Phone นอกจากนี้คุณภาพของเสียงก็จะเปลี่ยนไปตามประสิทธิภาพของอินเตอร์เน็ทอีกด้วย
 การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง

ประเทศสหรัฐอเมริกามีธรรมเนียมการให้ทิป ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการใช้บริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ส่วนมากคิดจาก 15% ของบิลนั้น (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ)
 อาหารการกิน
แฮมเบอร์เกอร์ การใช้ขนมปังขนมปังทรงกลม (Bun) หรือแซนด์วิชที่ใส่สติ๊ดแฮมเบิกและส่วนปรุงรสและส่วนประกอบอื่น ๆ (เช่นซอสมะเขือเทศ มัสตาร์ด มายองเนส ผักแก้วสลัด มะเขือเทศ หัวหอมฝรั่ง ผักชวนชิม แตงกวาดองเค็ม ชีสแห้ง ฯลฯ) ไว้ในขนมปังสองแผ่น

เฟรนฟรายด์ มันฝรั่งตัดเป็นชิ้นยาว ๆ และทอดด้วยน้ำมัน กลายเป็นอาหารชนิดหนึ่ง เป็นฟลาสฟุ๊ตประจำชนิดหนึ่ง นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป นอกนั้นอุตสาหกรรมผลิตมันฝรั่งทอด ซึ่งใช้มันฝรั่งบดเป็นผงและอัดแผ่นทอดน้ำมันอีกที

สเต็ก เสต็ก เนื้อเป็นก้อน ๆ เป็นอาหารฝรั่งที่พบบ่อย วิธีปรุงก็คือเจียนและบาร์บีคิวเป็นหลัก สเต็กมักจะไม่คุกสุกเต็มที่ ความสุกที่คุกเป็นไปตามควมาชอบของแต่ละคน

มัฟฟิน เป็น scones ชนิดหนึ่งที่มาจากประเทศเบลเยี่ยม ใช้เตาอบ waffle iron อบออกมา โดยแผ่น waffle iron ชั้นบนกับชั้นล่างมีกรอกโม แล้วแทแป้งเปียกเข้าไปอัดและอบจนแห้ง สามารถปรุงด้วยแจมรสชนิดต่าง ๆ


 รายการช้อปปิ้ง
ร้านค้าโดยทั่วไปจะเปิดให้บริการในวันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 หรือ 10.00 จนถึง 21.00 น. ในบางเมืองจะมีการเปิดให้บริการในวันอาทิตย์ด้วย ยกเว้นในวันเทศกาลสำคัญ เช่น Christmas หรือ Easter ที่ห้างร้านจะปิดบริการ ส่วนห้าง Wal-Mart เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน

เวลาซื้อสินค้าจะต้องเสียภาษีรวมไปกับราคาสินค้า ซึ่งอัตราภาษีในแต่ละรัฐไม่เท่ากัน เช่น สินค้าติดป้ายบอกราคา $20 เวลาจ่ายเงินจะต้องจ่าย $27 กรณีที่รัฐนั้นคิดภาษี 7%
 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • น้ำตกไนแองการ่า
  • ตึกเอ็มไพร์สเตต (Empire State)
  • อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ
  • วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์
  • ออลันโด
  • อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park)
  • สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge)
  • เขื่อนฮูเวอร์
  • แกรนด์แคนยอน
  • ลาสเวกัส
  • ฮอนโนลูลู
 เทศกาลสำคัญ
  • เทศกาลปีใหม่ วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนในวันส่งท้ายปีเก่า ถึงเวลาแล้วชาวอเมริกามีการนัดเจอกันเพือฉลองปีใหม่ อวยพรให้มีความสุขและเจริญเก้าหน้าซึ่งกันและกันในปีใหม่ที่มาถึงนี้
  • เทศกาลอีสเตอร์ ปกติแล้วเป็นวันอาทิตย์วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ แต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน เป็นวันที่ชาวคริสเฉลิมฉลองการคืนชีพของพระเยซูคริสต์
  • วันคริสต์มาส ในวันที่ 25 ธันวาคมเป็นเทศกาลสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวคริสต์ เพื่อรำละลึกถึงวันเกิดของพระเยซู สำหรับชาวอเมริกาที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ แต่การตกแต่งบ้านด้วยหลอดไฟ และซื้อต้นคริสต์ม๊าส ส่งของขวัญและบัตรอวยพรได้กลายเป็นประเพณี